คงไม่มีใครที่ไม่เคยบ่นว่า “ปวดหัว” นั่นเพราะจากความเครียด ไมเกรน ฯลฯ ซึ่งก็ไม่อันตรายถึงขั้นเสียชีวิต แต่ว่าอาการปวดศีรษะบางประเภทที่บ่งบอกถึงความผิดปกติอันตรายจนอาจถึงแก่ชีวิตได้
จากข้อมูลเชิงวิชาการจากศูนย์สมองและระบบประสาท ระบุว่า ของผู้ป่วยที่มีอาการปวดศรีษะทั่ว ๆ ไป ซึ่งไม่เป็นอันตรายถึงแก่ชีวิต การจำแนกโรคปวดศีรษะทั่วไปจากโรค ปวดศรีษะที่มีสาเหตุอื่นซ่อนอยู่ โดยเฉพาะ สาเหตุจากภายในสมอง เช่น ก้อนเนื้องอก เลือดออก หรือเส้นเลือดผิดปกติ ถือเป็นสิ่งสำคัญมากทางการแพทย์ และวัตถุประสงค์แรกของแพทย์ในการ เริ่มค้นหา และทำการรักษาผู้ป่วยที่มีอาการปวดศีรษะเป็นอาการสำคัญ
รายละเอียดลักษณะอาการปวดศีรษะจากผู้ป่วย ถือเป็นสิ่งสำคัญที่สุดที่จะนำไปสู่การวินิจฉัยโรครวมถึงการสืบค้นสาเหตุอื่นๆ ที่เป็นต้นเหตุของการปวดศีรษะที่อาจเป็นอันตรายต่อผู้ป่วยได้
ซึ่งมี 9 อาการปวดศีรษะอันตรายที่ควรรีบปรึกษาแพทย์
ส่วนผู้ที่มีอาการปวดศีรษะอยู่แล้ว หรือปวดศีรษะครั้งแรกล้วมีสัญญาณอันตรายดังกล่าวข้างต้น ให้รีบมาปรึกษาแพทย์ระบบ ประสาทโดยเร็ว เพื่อสืบค้นสาเหตุที่อาจเป็นอันตรายได้ และเพื่อให้ได้รับการรักษาอย่างทันท่วงทีและตรงกับโรคที่เป็นสาตุ
การตรวจวินิจฉัยที่สำคัญ ได้แก่การเอ็กซเรย์สมองด้วยคอมพิวเตอร์หรือคลื่นแม่เหล็กไฟฟ้า การเจาะเลือดตรวจทางห้องปฏิบัติการ และอื่น ๆ ตามแต่โรคที่แพทย์วินิจฉัย ถึงแม้ส่วนใหญ่ของโรคปวดศีรษะจะไม่เป็นอันตราย แต่การรักษาอย่างถูกต้องเป็นสิ่งสำคัญที่ทำให้การดำรงชีวิตเป็นปกติสุข
การคอยสังเกตสัญญาณอันตรายหรือความผิดปกติจะทำให้การวินิจฉัยและรักษาได้ทันท่วงทีและส่งผลกระทบกับผู้ป่วยน้อยลงได้
การรักษา ต้องหาสาเหตุของอาการปวดหัวก่อน ถ้าปัญหามาจากกระดูกต้นคอเคลื่อน กล้ามเนื้อคอยึดตึง ทำให้การไหลเวียนเลือดขึ้นสมองช้า ทำให้เกิดอาการมึนหัว ปวดเบ้าตา ปวดขมับ ปวดหัว ปวดหัวข้างเดียว ปวดขมับ หัวตื้อคดอะไรไม่ออก รักษาได้ด้วยการปรับโครงสร้างของกระดูกสันหลัง บริเวณต้นคอ และหลังส่วนล่าง และหลังส่วนล่าง ที่เคลื่อนออกจากตำแหน่ง ปรับเล็กน้อยให้กลับเข้าในตำแหน่งที่ถูกต้อง ทำให้การรักษาที่ตรงต้นเหตุ สามารถทำให้อาการปวดศรีษะทะเลา และหายไปได้ ด้วย